หน้าแรก | โมเดลพยากรณ์ EF | ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ EF | เกี่ยวกับโครงการ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ EF

โครงการพยากรณ์ EF เด็กปฐมวัย ได้เก็บข้อมูลเด็กปฐมวัยจำนวนประมาณ 2,000 คนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วทั้งจังหวัดลพบุรี และได้นำข้อมูลที่เก็บได้มาเชื่อมโยงกับผลการประเมิน EF ของเด็กกลุ่มเดียวกันที่ดำเนินงานโดยศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์, สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล, มหาวิทยาลัยมหิดล

ผลลัพธ์ที่ได้มีดังนี้:

ภาพรวมการกระจายตัวของผล EF

ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์, สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล, มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประเมินระดับพัฒนาการ EF เด็กกลุ่มเดียวกับที่เก็บข้อมูล โดยได้ใช้แบบทำสอบ 2 ชุด ได้แก่ 1) MU.EF-101 ประเมินพัฒนาการ EF และ 2) MU.EF-102 ประเมินปัญหาพฤติกรรม EF โดยแต่ละแบบได้ผลภาพรวมดังนี้

จะเห็นว่าสำหรับการประเมินพัฒนาการ EF (EF101) เด็กเกือบครึ่งได้คะแนนขั้นดีมาก ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินปัญหาพัฒนาการ EF (EF102) ที่พบว่าเด็กที่เริ่มมีปัญหาหรือมีปัญหามาก รวมกัน 15-20% ของเด็กทั้งหมด

ถัดไปเป็นผลการหาระดับความสัมพันธ์ (Correlations) ระหว่างปัจจัยต่างๆ กับผล EF

ด้านการหยุด การยับยั้ง (Inhibitory control - INH)

คือการยับยั้งพฤติกรรมตนเองไม่ให้หุนหันพลันแล่น หยุดคิดก่อนทำ หยุดพฤติกรรมที่รบกวนผู้อื่นหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน รวมถึงการยับยั้งความคิดไม่ให้คิดเรื่อยเปื่อยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ควบคุมความคิดให้มีสมาธิจดจ่อในเรื่องที่กำลังทำ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มี INH สูง:

จะเห็นว่าหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับการที่เด็กมี INH สูง เป็นปัจจัยที่พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูสามารถควบคุมได้ เช่น การให้เด็กช่วยเหลือตนเองหรือช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ การอ่านนิทานให้ฟังบ่อยๆ การพยายามดูแลให้กินอาหารและขับถ่ายให้ได้ทุกวันตรงเวลา รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระแบบที่ไม่ใช่การเล่นบนหน้าจอ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มีปัญหาด้าน INH:

จะเห็นว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับการที่เด็กมีปัญหาพัฒนาการ EF หลายปัจจัยพ่อแม่ควบคุมได้ เช่น การที่ผู้ดูแลหลักไม่ใช่พ่อแม่ (ฝากลูกให้ญาติเลี้ยง) ระยะเวลาที่เด็กเล่นบนหน้าจอ การสอนและลงโทษด้วยการตี ไปจนถึงการขับถ่ายไม่ปกติ (สองวันครั้ง) ปัจจัยเหล่านี้ถ้าพ่อแม่พยายามเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ก็มีโอกาสที่จะลดปัญหาพัฒนาการ EF ได้

สังเกตว่าพบปัจจัยด้านดี แต่กลับเกี่ยวข้องกับปัญหา EF เช่น การอ่านนิทานและการเล่านิทาน รวมถึงระยะเวลานอนกลางคืนที่ดูเหมือนยิ่งมากยิ่งจะเกี่ยวข้องมากกับปัญหา EF สาเหตุที่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้เป็นได้หลากหลายและยากที่จะรู้ได้ชัดเจน เช่น ประเภทของเรื่องเล่าหรือนิทานที่อ่านให้ฟัง ถ้าไม่เหมาะสมก็อาจมีผลลบได้ หรือการนอนมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียแทนที่จะเป็นผลดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องการอ่านและเล่านิทาน ไปมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพัฒนาการ EF ในอีกหลายตัวชี้วัด ประกอบกับความรู้ทางวิชาการที่ล้วนระบุตรงกันว่าการอ่านและเล่านิทานส่งผลต่อ EF ในทางบวก ดังนั้น ผู้อ่านจึงไม่ควรนำข้อมูลที่ผิดปกตินี้ไปปฏิบัติในทางที่หลีกเลี่ยงหรือลดการอ่านและการเล่านิทาน

อีกข้อสังเกต คือระดับความสัมพันธ์ชี้วัดโดย Pearson correlation coefficient มีค่าไม่มากนัก แม้ในปัจจัยที่มีระดับความสัมพันธ์สูงสุดกับ INH ก็มี r เพียง 0.0753 จากค่าสูงสุดคือ 1 บ่งชี้ว่าไม่ได้มีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเป็นตัวบ่งชี้ EF ที่ดี แต่เกิดจากการรวมตัวของหลายๆ ปัจจัยเข้าด้วยกัน

สำหรับมิติอื่นๆ ของ EF มีระดับความสัมพันธ์ร่วมกับปัจจัยต่างๆ ในลักษณะใกล้เคียงกันกับ INH โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้

ด้านการเปลี่ยนความคิด (Shift - SHF)

คือการเปลี่ยนความคิดไม่ให้ยึดติดความคิดเดียว รู้จักเปลี่ยนมุมมองคิดนอกกรอบได้ สามารถทำงานหลายอย่างสลับไปมาได้ การเปลี่ยนความคิดได้จะพัฒนาช้ากว่าความจำขณะทำงานและการยับยั้งพฤติกรรม

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มี SHF สูง:

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มีปัญหาด้าน SHF:

ด้านการควบคุมอารมณ์ (Emotional control - EC)

คือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ให้แสดงออกอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มี EC สูง:

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มีปัญหาด้าน EC:

ด้านความจำขณะทำงาน (Working Memory - WM)

คือความสามารถในการจำข้อมูลไว้ในใจและจัดการกับข้อมูลเหล่านั้น หรือการนำข้อมูลที่เก็บไว้ในใจมาใช้ในการคิดแก้ปัญหา จำเป็นต้องอาศัยการมีความตั้งใจจดจ่อ (Attention) เป็นพื้นฐานสำคัญ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มี WM สูง:

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มีปัญหาด้าน WM:

ด้านการวางแผนจัดการ (Plan/Organise - PO)

คือการวางแผนจัดการงานให้เสร็จ ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย จัดลำดับความสำคัญของงาน เริ่มต้นลงมือทำ การไม่ติดกับปัญหาเล็กน้อยจนลืมภาพรวมของงาน การคาดการณ์ผลของการกระทำ การติดตามสะท้อนผลจากการกระทำเพื่อปรับปรุงงานให้ดีขึ้น

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มี PO สูง:

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากกับเด็กที่มีปัญหาด้าน PO:

ย้อนกลับไปหน้าแรก